ใครจะไปคิดว่าการอำลาทีมของ เคนนี ดัลกลิช เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ปี 1991 จะเป็นจุดเปลี่ยนของ ลิเวอร์พูล ที่ครองความยิ่งใหญ่มาอย่างยาวนาน
ใช่ค่ะ...ตลอดเวลา 30 ปี ตู้โชว์ของทีมหงส์แดงยังมีโทรฟี่เข้ามาประดับเพิ่มอยู่ตลอด ถ้านั่งนับจริงๆ จังๆ แล้ว 14 ถ้วยเลยนะคะไม่ใช่น้อย นี่ไม่นับถ้วยคอมมูนิตี้ชิลด์ด้วยนะ ไล่ตั้งแต่ ลีกคัพ 4 สมัย 1995, 2001, 2003, 2012 // เอฟเอคัพ 3 สมัย 1992, 2001, 2006 // ฟุตบอลสโมสรโลก 1 สมัย 2019 // ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 3 สมัย 2001, 2005, 2019 // ยูฟ่าคัพ (หรือที่ตอนนี้เรียกว่า ยูโรป้า) 1 สมัย 2001 และ ถ้วย ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก อีก 2 สมัยในปี 2005 และ 2019 อย่างยิ่งใหญ่
แต่สิ่งที่เหล่าเดอะค็อปรอคอยมากที่สุดคือแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษ แล้วยิ่งมีการเปลี่ยนชื่อมาเป็นพรีเมียร์ลีกด้วยแล้ว ทำให้สาวกหงส์แดงต้องทนต่อการล้อเลียนของแฟนบอลคู่แข่งว่า “ลิเวอร์พูลทีมที่ไม่เคยครองถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีก” แม้ถ้าจะนับกันตามหลักความเป็นจริงแล้วก็คือถ้วยเดียวกันนั่นแหละค่ะ หงส์แดงเป็นทีมที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษมากเป็นอันดับ 2 ที่ 19 สมัย(รวมปีนี้) เป็นรองเพียงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่ทำได้ 20 สมัยเท่านั้น จริงๆ แล้วแฟนบอลทีมที่ล้อส่วนใหญ่ก็เป็นแฟนบอลแมนยู ทีมรักพีชชี่นี่แหละ เอาเข้าจริงพีชชี่ว่าบางทีเรากำลังอิจฉาลิเวอร์พูลที่ดีวันดีคืน ส่วนทีมเราถอยหลังลงคลอง (เศร้า)
ตลอดเวลา 30 ปี ลิเวอร์พูลผ่านการลองผิดลองถูก เปลี่ยนผู้จัดการทีมมากถึง 9 คน ในระหว่างนั้นมีคนที่เข้ามาพร้อมกับจุดประกายแห่งความหวังให้กับแฟนบอลว่า “การรอยคอยที่ยาวนานกำลังจะถึงจุดสิ้นสุดสักที” แต่มันไม่ได้เป็นแบบนั้น เมื่อสถานการณ์ภายในของสโมสรย่ำแย่ ตั้งแต่เจ้าของทีม การบริหารงานที่ไม่ทันสมัย ถ้าใครจำกันได้ หงส์แดงเกือบจะเป็นทีมล้มละลายด้วยซ้ำ โชคดีที่มีกลุ่มทุน นิวอิงแลนด์ สปอร์ตส เวนเจอร์ส ที่ตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็นเฟนเวย์ สปอร์ตส กรุ๊ป เข้ามาโอบอุ้มทีมเอาไว้ก่อนเส้นตายไม่ถึง 2 วัน
จากปัญหาที่สะสมมานาน การบริหารงานไม่ได้เอื้อต่อการสร้างทีมของกุนซือ ทั้งเรื่องนโยบาย งบประมาณซื้อนักเตะ และความยุ่งเหยิงที่เกิดขึ้น ประกอบกับการเปลี่ยนหัวเรือใหญ่บ่อยครั้ง เลยทำให้ลิเวอร์พูลไม่สามารถยืนระยะยาว 38 นัดขึ้นมาครองตำแหน่งจ่าฝูงได้จนจบฤดูกาลสักครั้งเดียว บางฤดูกาลเริ่มต้นได้ดีแต่สุดท้ายก็พลาดท่าตกม้าตาย บางฤดูกาลจบด้วยฟอร์มดีอันดับสวยหรู จนคิดว่าปีหน้าต้องดีแน่ แต่กลับกลายเป็นว่าไม่ดีเฉย
อีกหนึ่งฤดูกาลที่น่าเสียดายคงหนีไม่พ้นปี 2013-14 กับการลื่นล้มของ สตีเวน เจอร์ราร์ด กัปตันทีมที่เป็นที่รักของเดอะค็อป ในเกมกับเชลซี จบเกมหงส์แดงแพ้ไป 0-2 ทำ 3 คะแนนสุดล้ำค่าหลุดมือ ส่งผลให้เกมนัดต่อไปที่เจอกับ คริสตัล พาเลซ ต้องชนะด้วยสกอร์ขาดที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่กลับฟอร์มหลุดโดนตามตีเสมอ 3-3 ช่วงท้ายเกม ทั้งที่นำห่างก่อนถึง 3-0 พลาดแชมป์ให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้แบบช็อกโลก ภาพ หลุยส์ ซัวเรซ ร้องไห้แบบไม่อายใครตอนจบเกม น่าจะยังอยู่ในใจของแฟนลิเวอร์พูลทุกคน ... จะว่าไปสงสารพี่เจิดเหมือนกันนะคะ สำหรับพีชชี่ เจอร์ราร์ดไม่ใช่นักเตะเป็นที่รักของแฟนบอลหงส์แดงเท่านั้น แต่ด้วยบุคลิกหลายๆ อย่าง บวกกับความเป็นคนมุ่งมั่น ทุ่มเท ซื่อสัตย์ ทำให้กองกลางกัปตันทีมลิเวอร์พูลคนนี้ ได้ใจของแฟนบอลทั่วไปด้วย พีชชี่เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ เลยอยากจะเห็นเค้าประสบความสำเร็จอย่างที่ตั้งใจสักครั้งเหมือนกัน
จน เยอร์เกน คลอปป์ เข้ามาคุมทีมเมื่อปี 2015 กุนซือผู้เข้ามาเปลี่ยนแปลงลิเวอร์พูลอย่างแท้จริง ขนาดแฟนผีอย่างพีชชี่เองพอเห็นเหตุการณ์ในวันที่กุนซือชาวเยอรมันวิ่งเข้าสนามไปดีใจกับลูกทีม ที่สามารถยิงประตูชัยช่วงท้ายเกมแซงชนะ นอริช ซิตี้ 5-4 ในเกมลีก แล้วแว่นหลุดเมื่อต้นปี 2016 ประกอบกับรูปแบบการเล่นที่มีแนวทางชัดเจน ยังรู้สึกเลยว่า เอาแล้ว ลิเวอร์พูลคราวนี้มาแน่ มาจริง ไม่ได้มาแค่ให้หวาดเสียวแล้วจบไปเหมือนครั้งก่อนๆ
เยอร์เกน คลอปป์ วางรากฐานใหม่ให้ทีม เปลี่ยนทัศนคติของนักเตะ รวมไปถึงแฟนบอลให้เชื่อมั่นในสโมสร พร้อมกับค่อยๆ หาจิ๊กซอว์ที่ขาดไปมาเติม จนเมื่อฤดูกาลก่อน (2018-19) ลิเวอร์พูลใกล้เคียงกับการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกอีกครั้ง ใกล้เคียงจนใครๆ ก็คิดว่าไม่น่าจะพลาด แต่ก็พลาดไปจนได้ เพราะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โชว์ฟอร์มสุดยอดแบบไม่มีใครคาดคิด เก็บชัยชนะรวดใน 14 เกมสุดท้ายของฤดูกาลจนแซงคว้าโทรฟี่ไปได้ในที่สุด หงส์แดงที่เก็บได้มากถึง 97 คะแนน คะแนนดีกว่าทุกการคว้าแชมป์ลีกของปิศาจแดงซะอีก (ฤดูกาลที่แมนยูจบด้วยจ่าฝูงและทำคะแนนได้มากที่สุดคือปี 1993-94 กับผลงาน 92 คะแนน) แต่ไม่ดีพอที่จะคว้าแชมป์ลีกสูงสุด ทำได้เพียงเพิ่มสถิติเป็นอันดับที่ 2 ที่ดีที่สุดตลอดกาลในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลอังกฤษเท่านั้น
ฤดูกาล 2019-2020 เริ่มต้นด้วยความหวังของเดอะค็อปอีกครั้ง แม้ว่าช่วงตลาดซื้อขายนักเตะก่อนเปิดฤดูกาลของหงส์แดงจะเงียบเหงา แทบไม่มีการเสริมทัพนักเตะบิ๊กเนมหรือตัวหลักเข้ามาในทีมเลย จนทำให้แฟนบอลบางคนเริ่มไม่แน่ใจ ไม่กล้าคาดหวัง เพราะผ่านความผิดหวังมาหลายครั้งหลายคราวแล้ว แต่เชื่อว่าต้องแอบมีตั้งคำถามในใจแหละว่า “การรอคอยที่ยาวนานจะสิ้นสุดลงแล้วใช่มั้ยนะ?” แถมต้นฤดูกาล โกลมือหนึ่งอย่าง อลิสซอน เบ็คเกอร์ มาเจอปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน ต้องใช้งาน อาเดรียน ผู้รักษาประตูสำรองที่เพิ่งจะดึงเข้ามาแบบฟรีๆ แต่ลิเวอร์พูลก็ผ่านมาได้ บางนัดทำท่าจะทำแต้มหล่น ก็สามารถกลับมากู้สถานการณ์ได้ช่วงท้ายเกมทุกที ด้วยบุคลิกสู้ไม่ถอยของแชมเปียนส์ที่เคยอกหักในนัดชิง UCL ก่อนจะกลับมาแก้ตัวได้อีกครั้งในปีถัดมา ... หงส์แดงค่อยๆ เก็บคะแนนนำ ซิตี้ อันดับที่ 2 ห่างถึง 25 คะแนน แม้จะแข่งมากกว่าอยู่ 1 นัด จนใกล้จะทำสถิติคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์
แต่ทุกอย่างต้องมาสะดุดกับโควิด-19 เกมถูกเลื่อนไปอย่างไม่มีกำหนด กว่าจะได้กลับมารีสตาร์ตอีกครั้งผ่านไปร้อยกว่าวัน อีก 6 คะแนนเท่านั้นที่ ลิเวอร์พูล ต้องการ แม้จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้งไม่ค่อยดี กับการทำได้เพียงแค่เสมอกับเอฟเวอร์ตัน 0-0 แต่ก็ไม่นานเกินรอ เพราะคืนวันที่ 25 มิถุนายน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ดันไปพลาดท่าแพ้ให้ เชลซี 1-2 ใส่พานทองมอบแชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรกในรอบ 30 ปี และแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกให้กับหงส์แดงได้เฮลั่นกันไปทั้งโลก ทั้งที่ยังเหลืออีกตั้ง 7 เกม สิ้นสุดแล้วจริงๆ กับ "ถ้วยนี้ที่รอคอย"
คราวนี้ต้องมาลุ้นกันต่อค่ะว่า ลิเวอร์พูล จะทำสถิติอะไรเพิ่มอีกรึเปล่า จะกลายเป็นทีมที่สามารถทำคะแนนต่อฤดูกาลได้มากที่สุดไหม และจบที่กี่คะแนน (ถ้านับแต่นี้เก็บ 3 แต้มได้ทุกนัด จะจบฤดูกาลที่ 107 คะแนน) น่าสนใจค่ะว่า เยอร์เกน คลอปป์ จะเดินหน้าทำลายสถิติ หรือมองยาวถึงอนาคตด้วยการให้โอกาสนักเตะดาวรุ่งของทีมได้ลงมาสัมผัสบรรยากาศเกมลีกสูงสุด แม้ตอนนี้อาจจะไม่เหมือนสถานการณ์ปกติไปบ้างเพราะยังต้องมีมาตรการการเว้นระยะห่างทางสังคมอยู่
สุดท้าย จากใจแฟนปิศาจแดงแบบเข้มข้น พีชชี่ยินดีด้วยจริงๆ ค่ะกับการคว้าแชมป์ครั้งนี้ ยอมรับว่าต้องเตรียมใจอยู่บ้าง ทำใจอยู่เยอะ แต่พอได้เห็นเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่เชียร์ลิเวอร์พูลมานาน และเฝ้ารอคอยเวลานี้ ได้ดีใจจนสุดเสียง ความสุขเหล่านั้นมันก็ย้อนกลับมาเหมือนกันนะคะ
หวังลึกๆ ว่า พีชชี่จะไม่ต้องรอนานเท่านี้นะคะ ยังอยากมีแรงออกไปฉลองแชมป์นอกบ้านอยู่ 555
Peachy TRnews
"ในระหว่าง" - Google News
June 28, 2020 at 06:00AM
https://ift.tt/3g1JT0g
แชมป์ของหงส์ - ไทยรัฐ
"ในระหว่าง" - Google News
https://ift.tt/36HoaHq
Home To Blog
No comments:
Post a Comment