สำนักข่าวบลูมเบิรก รายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ค ปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (13 ก.ค.)ที่ระดับ 26,085.80 จุด เพิ่มขึ้น 10.50 จุด หรือ 0.04 % ดัชนี NASDAQ ปิดตลาดที่ระดับ 10,390.84 จุด ลดลง 226.60 จุด หรือ -2.13 % และ ดัชนี S&P 500 ปิดตลาดที่ระดับ 3,155.22 จุด ลดลง 29.82 จุด หรือ -0.94 %
ถึงแม้ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่ในระหว่างชั่วโมงซื้อขายดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง ซึ่งเป็นผลมาจากการที่นักลงทุนได้แรงหนุน หลัง ไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทยาใหญ่ที่สุดของสหรัฐ และ BioNTech ซึ่งเป็นบริษัทยาของเยอรมนี ได้รับสถานะ "fast track" จากสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ทำให้ทั้งสองบริษัทสามารถพัฒนาวัคซีนได้รวดเร็วมากขึ้น
อย่างไรก็ตามจากการปรับลดลงอย่างมากของหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีได้ทำให้ดัชนีดาวโจนส์ผันผวนอย่างหนัก และปิดตลาดด้วยการเพิ่มขึ้นเพียง 10.50 จุด เท่านั้น
จากการปรับลดลงของหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีทำให้ ดัชนี NASDAQ และ S&P 500 ปรับลดลงหลังปิดตลาดซื้อขาย โดยเฉพาะหุ้นของ"เทสล่า"ที่ลดลง 3.08%
ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงต้องจับตาการประกาศผลประกอบการของธนาคารขนาดใหญ่ที่จะมีขึ้นในช่วงเช้าของวันนี้ตามเวลาในสหรัฐฯ
"ในระหว่าง" - Google News
July 14, 2020 at 08:51AM
https://ift.tt/3epdP5h
ดาวโจนส์ ปิดบวกเล็กน้อย 10.50 จุด หลังหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีถ่วงตลาด - efinanceThai
"ในระหว่าง" - Google News
https://ift.tt/36HoaHq
Home To Blog
No comments:
Post a Comment